1. สร้าง Domino Clustering ด้วยความสามารถของโดมิโน่เอง ไม่ได้พึ่งพาความสามารถของ ระบบปฏิบัติการ หรือต้องใช้ Share Disk เหมือนกับ วินโดว์
ทำไมถึงต้องใช้ Domino Clustering
- High availability สำหรับ databasesที่สำคัญ และข้อมูลต้องพร้อมให้บริการตลอดเวลา
- Workload balancing ในกรณีที่มีการเข้าถึงฐานข้อมูล หรือแอพพลิเคชั่นมากๆ คุณสามารถย้ายผู้ใช้ไปใช้งานในเครื่องอื่นๆ เพื่อทำการ Maintenance หรือ กระจายโหลดงานได้
- Data synchronization เมื่อมีการเปลื่ยนแปลงข้อมูล จะมีการอัพเดตไปยัง คลัสเตอร์อื่นๆเสมอ
- Analysis tools ใช้ Cluster analysis tools, ประกอบกับ log คุณสามารถดูฐานข้อมูลMonitoring Configuration และ Monitoring Results เพื่อวิเคราะห์การใช้งานและเพิ่มเติมแก้ไขคลัสเตอร์ได้ง่าย
- System Maintenance ในการบำรุงรักษาระบบ อาทิเช่น อัพเกรด ฮาร์ดแวร์ เปลื่ยนเวอร์ชั่นของระบบ OS หรือ เวอร์ชั่นของโดมิโน่ได้ โดยส่งต่อ ไปให้เซิร์ฟเวอร์ตัวอื่นทำงานแทนระหว่างที่อัพเกรดหรือติดตั้งระบบ
- Backup Server เราสามารถ จัดให้เซิรฟ์เวอร์ตัวที่เป็น Cluster ตัวหนึ่งเป็น Backup Server ได้อีกด้วย
- Centralize Management จัดการจากส่วนกลางอาทิเช่น เพิ่มลด คลัสเตอร์ ลากและวางฐานข้อมูลที่ต้องการทำReplicate หรือ ทำการมอนิเตอร์เซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดจาก Domino Admin
- Cross Platform ทำงานแบบข้ามแพลตฟอร์มได้ หรือ OS คนละเวอร์ชั่นได้
คำแนะนำในการทำ Clustering
- เซิร์ฟเวอร์ทุกตัวที่จะทำคลัสเตอร์จะเป็นไลเซนต์ IBM® Lotus® Domino® Enterprise server หรือ Domino Utility server หากเป็น ไลเซนต์แบบ Domino Messaging Server ไม่ได้ครอบคลุมถึงนะครับ
- เซิร์ฟเวอร์จะต้องเชื่อมต่อกันด้วย High-Speed LAN / WAN หรือ private LAN
- เซิร์ฟเวอร์ ทั้งหมดเชื่อมต่อถึงกันด้วย TCP/IP และอยู่บน IBM® Lotus® Notes® named network เดียวกัน
- เซิร์ฟเวอร์ ทั้งหมด อยู่บน Domino domain และแชร์ Domino Directory เดียวกัน
- คุณจะต้องระบุ Administration Server สำหรับ Domino Directory ในโดเมน หากไม่ระบุ Administration Process จะไม่สามารถเปลื่ยนสมาชิกของ Cluster ได้
ข้อสังเกตุ: Administration serverไม่จำเป็นจะต้องเป็นสมาชิกของคลัสเตอร์ - เซิร์ฟเวอร์ ทั้งหมดจะต้องมี Hierarchical server ID
- เซิร์ฟเวอร์ ตัวหนึ่ง ๆสามารถเป็นสมาชิกของคลัสเตอร์หนึ่งเดียว ณ เวลานั้นๆ
- เซิร์ฟเวอร์ ทั้งหมด จะต้องมีพื้นที่ดิสก์เพียงพอ มี processing power และหน่วยความจำเพียงพอ เหตุผลคือเวลาที่ทำการทำการ database replicas จะต้องการพื้นที่มากกว่าปกติ
2. ทำการ Enable Transaction Logging กับ ODS เวอร์ชั่น 4.1 ขึ้นไป
โดมิโน่จะทำการบันทึกสิ่งที่เปลื่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Database ไม่ว่าจะเป็นการ เขียนอ่านบันทึก และเก็บไว้เป็น transaction log หากระบบมีปัญหา หรือดิสก์Fail คุณสามารถกู้คืน หรือใช้ third-party backup มากู้คืนระบบได้
3. อย่าลืมใช้ Backup Tool อาทิเช่น Tivoli Storage Manager สำหรับแบ็คอัพข้อมูลดังต่อไปนี้
- Domino server data files
- All databases (*.nsf)
- Template files (*.ntf)
- Notes.ini file
- ID files
- Directory (names.nsf)
- Transaction Logging (ค่าdefault คือ \LOGDIR ใน Domino data directory)
